NEW GWM TANK 500 DIESEL
สิ่งที่
NEW
GWM TANK 500 DIESEL มีการพัฒนาจากรุ่นไฮบริด
·
พัฒนารุ่น 2WD สำหรับตลาดไทยโดยเฉพาะ เพื่อให้เหมาะกับการใช้งานในชีวิตประจำวันของคนไทย
·
ปรับช่วงล่างให้เหมาะกับสภาพถนนเมืองไทย
พฤติกรรมการขับขี่ของคนไทย
·
เพิ่มความสบายในเบาะแถว
2 โดยการปรับการใส่วัสดุโฟม เพื่อเพิ่มความนุ่มสบายในการนั่งให้มากยิ่งขึ้น
·
ย้ายตำแหน่งยางอะไหล่
ไปไว้ด้านใต้ตัวรถ เพื่อให้สะดวกกับการเปิดประตูหลังและการจอดในพื้นที่จำกัด
รุ่นและสีรถยนต์
· NEW GWM TANK 500 DIESEL สีขาว สีดำ และสีเทา
มาพร้อม 3 รุ่น ได้แก่
o
รุ่น NEW GWM TANK 500 DIESEL 2.4T PRO
o รุ่น NEW GWM TANK 500 DIESEL 2.4T ULTRA*
o รุ่น NEW GWM TANK 500 DIESEL 2.4T ULTRA 4WD*
*
มาพร้อมรุ่นพิเศษ Black
Warrior
· สีภายใน: สีดำ
สมรรถนะ NEW GWM TANK 500 DIESEL
· NEW GWM TANK 500 DIESEL ทั้ง 3 รุ่นขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์ดีเซล 2.4T เจนเนอเรชันใหม่ล่าสุด
พร้อมระบบเทอร์โบแปรผัน (VGT) และเกียร์อัตโนมัติ 9 สปีด (9AT) ให้กำลังสูงสุด 135 กิโลวัตต์ หรือ 184 แรงม้า ที่ 3,600 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 480 นิวตันเมตร
รองรับการเดินทางไกลด้วยระยะทางขับขี่รวมมากกว่า 1,000 กิโลเมตรต่อการเติมน้ำมันหนึ่งครั้ง
· พร้อมเสริมประสิทธิภาพด้วยเทคโนโลยีล้ำสมัย
เช่น ระบบหัวฉีดคอมมอนเรลแรงดันสูง 2,000 บาร์, ปั๊มน้ำมันเครื่องแบบปรับอัตราการไหล
และระบบ EGR ควบคุมด้วยอิเล็กทรอนิกส์
ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการเผาไหม้ ลดมลพิษ และประหยัดเชื้อเพลิงยิ่งขึ้น
· ระบบแสดงภาพใต้ท้องรถ (Body Transparent) เพิ่มทัศนวิสัยและความปลอดภัยในทุกสถานการณ์
· รองรับโหมดการขับขี่สูงสุดถึง 8 โหมด
o NEW GWM TANK 500 DIESEL รุ่น 2.4T PRO และ 2.4T ULTRA
มาพร้อม 3 โหมดการขับขี่ ได้แก่ โหมดปกติ, โหมดสปอร์ต และโหมดประหยัด
o NEW GWM TANK 500 DIESEL รุ่น 2.4T ULTRA 4WD มาพร้อม 8 โหมดการขับขี่ ได้แก่
§ โหมด 2H, โหมด 4H, โหมด 4L, โหมดพื้นหิมะ, โหมดพื้นโคลน,
โหมดพื้นทราย, โหมดพื้นหิน
และโหมดผู้เชี่ยวชาญ เพื่อรองรับทุกสภาพเส้นทางทั้งบนถนนและออฟโรดอย่างมั่นใจ
§ นอกจากนี้ รุ่น 2.4T ULTRA 4WD ยังยกระดับความคล่องตัวและความมั่นใจในการขับขี่ด้วยฟีเจอร์ล้ำสมัย
อาทิ ระบบช่วยกลับรถในพื้นที่แคบ (Tank Turn), ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติสำหรับทางออฟโรด
(Off-road Cruise Control) ระบบล็อกเฟืองด้านหน้าและด้านหลัง
(Front and Rear Differential Lock)
แพลตฟอร์มของ NEW GWM TANK 500 DIESEL
· NEW GWM TANK 500 DIESEL พัฒนาบนโครงสร้างแชสซีแบบตัวถังวางบนเฟรม (Body-on-Frame) ที่ออกแบบขึ้นเฉพาะสำหรับรถยนต์ในตระกูล GWM TANK มอบความแข็งแกร่งเหนือระดับ
พร้อมระยะความสูงใต้ท้องรถ 224 มม. รองรับทุกสภาพเส้นทาง
พร้อมส่งมอบความมั่นใจในทุกการเดินทาง
· ในรุ่น 2.4T ULTRA 4WD มาพร้อมระบบขับเคลื่อนสี่ล้อแบบพาร์ตไทม์
เสริมด้วยระบบล็อกเฟืองด้านหน้าและหลังควบคุมด้วยระบบไฟฟ้า
เพิ่มขีดความสามารถในการลุยเส้นทางทุรกันดารอย่างแท้จริง
· ด้านระบบกันสะเทือน
ด้านหน้าเป็นแบบปีกนกคู่ (Double-Wishbone)
มอบความแม่นยำในการควบคุมทิศทาง
ส่วนด้านหลังใช้ช่วงล่างแบบมัลติลิงก์ ช่วยสร้างสมดุลระหว่างสมรรถนะการควบคุมและความนุ่มนวลในการขับขี่อย่างลงตัว
การออกแบบภายนอก (Exterior Design)
NEW
GWM TANK 500 DIESEL รถยนต์อเนกประสงค์ PPV ระดับพรีเมียม ถ่ายทอดผ่านเส้นสายตัวถังที่แข็งแกร่งและทรงพลัง
สื่อถึงความสง่างามและความภูมิฐาน
· มิติตัวถังขนาดใหญ่ กว้าง 1,934 มม.
ยาว 4,886 มม.
และสูง 1,905 มม. ระยะฐานล้อ 2,850 มม.
· ไฟหน้าแบบ LED อัจฉริยะ มาพร้อมไฟส่องสว่างกลางวัน (Daytime Running Lights), ฟังก์ชัน “Follow-Me-Home” และระบบปรับไฟสูง-ต่ำอัตโนมัติ
เพิ่มความสะดวกและปลอดภัยในการใช้งาน
·
ล้ออัลลอยสีดำ
o
ในรุ่น 2.4T PRO ขนาด 18 นิ้ว พร้อมยาง Westlake ขนาด 265/60
R18 และยางอะไหล่
o ในรุ่น 2.4T ULTRA และ 2.4T ULTRA 4WD ขนาด 20 นิ้ว พร้อมยาง Continental ขนาด 265/50 R20 และยางอะไหล่
การออกแบบภายใน (Interior Design)
การออกแบบภายในของห้องโดยสาร
NEW GWM TANK 500 DIESEL โดดเด่นด้วยบรรยากาศอันโอ่อ่าและหรูหราภายใต้แนวคิด “ห้องโดยสารอัจฉริยะ”
ผสานความล้ำสมัยเข้ากับความสบายอย่างลงตัว ด้วยวัสดุพรีเมียมและการออกแบบพื้นที่ที่ตอบโจทย์ทั้งไลฟ์สไตล์การใช้งานในชีวิตประจำวันและการเดินทางร่วมกับครอบครัว
·
ทุกรุ่นย่อยของ NEW GWM TANK 500 DIESEL มาพร้อมอุปกรณ์มาตรฐาน
ดังนี้
o หน้าจอคู่ ประกอบด้วยหน้าจอแสดงผลข้อมูลการขับขี่แบบดิจิทัล TFT (TFT
Digital Driving Display) ขนาด 12.3 นิ้ว
หน้าจอสัมผัสมัลติมีเดียขนาด 12.3 นิ้ว
ในรุ่น 2.4T PRO และขนาด 14.6 นิ้ว ในรุ่น 2.4T
ULTRA และ 2.4T ULTRA 4WD
รองรับการเชื่อมต่อแอปพลิเคชัน การเล่นเพลง และแสดงผลแบบแยกหน้าจอได้
o ระบบชาร์จไร้สาย 50W พร้อมพอร์ต Type-A/C ด้านหน้า
และ Type-A ด้านหลัง
รองรับการชาร์จอุปกรณ์หลายชิ้นอย่างรวดเร็ว
o เบาะนั่งออกแบบตามหลักสรีรศาสตร์ ช่วยลดความเมื่อยล้าระหว่างเดินทางไกล
รองรับสรีระผู้ขับขี่และผู้โดยสารอย่างลงตัว
o ระบบปรับอากาศอัตโนมัติ พร้อมระบบกรองอากาศ N95 เพื่อคุณภาพอากาศภายในห้องโดยสารที่ดีต่อสุขภาพ
o พื้นที่เก็บสัมภาระแบบยืดหยุ่น เบาะหลังพับได้แบบ 50:50
รองรับปริมาณสัมภาระสูงสุด 795 ลิตร
o แพดเดิลชิฟต์บนพวงมาลัย เพิ่มความคล่องตัวในการควบคุมเกียร์
รองรับการขับขี่ที่หลากหลาย
· NEW GWM TANK 500 DIESEL รุ่น 2.4T ULTRA เพิ่มอุปกรณ์ดังต่อไปนี้
o ตกแต่งด้วยหนัง Nappa ระดับพรีเมียม
มาตรฐานเดียวกับรถยนต์หรู เพื่อความรู้สึกพรีเมียมทั้งภาพลักษณ์และการใช้งาน
o ระบบเสียงรอบทิศทางแบบพื้นฐาน จำนวน 12 ลำโพง ให้คุณภาพเสียงเหนือระดับ
เสริมอรรถรสในการขับขี่
o ระบบบันทึกตำแหน่งพร้อมระบบ Welcome seat ฟังก์ชันปรับเบาะไฟฟ้า 6 ทิศทาง พร้อม VIP
สวิตช์ สำหรับเบาะผู้โดยสารด้านหน้า ช่วยให้ง่ายต่อการขึ้น-ลงรถ
o ระบบเบาะนวดไฟฟ้า สำหรับผู้ขับขี่และผู้โดยสารด้านหน้า
ลดความเมื่อยล้าระหว่างการขับขี่ พร้อมยกระดับความสบาย
o หลังคาซันรูฟแบบพาโนรามา เพิ่มแสงธรรมชาติและมุมมองอันกว้างขวาง
สร้างบรรยากาศโปร่งโล่งสบายภายในห้องโดยสาร
· NEW GWM TANK 500 DIESEL รุ่น 2.4T ULTRA 4WD เพิ่มอุปกรณ์ดังต่อไปนี้
o ระบบเบาะระบายอากาศสำหรับผู้โดยสารด้านหน้าและแถวสอง เพื่อยกระดับความสบายของผู้โดยสารด้านหลังมากยิ่งขึ้น
ระบบอัจฉริยะใน NEW GWM TANK 500 DIESEL
NEW GWM TANK 500 DIESEL ทั้ง 3 รุ่นย่อย
มาพร้อมระบบอัจฉริยะที่ครอบคลุมทั้งด้านความบันเทิง ความปลอดภัย การขับขี่
และเทคโนโลยีล้ำสมัยต่าง ๆ อาทิ
· ระบบอัปเกรดเฟิร์มแวร์แบบ FOTA (Firmware Over-the-Air) รองรับการอัปเดตระบบเกียร์
อัตราเร่ง ระบบช่วยขับขี่ ความบันเทิง
และการควบคุมภายในห้องโดยสารผ่านสัญญาณอินเทอร์เน็ต ช่วยปรับปรุงประสิทธิภาพโดยไม่ต้องเข้าศูนย์บริการ
เช่น ปรับอัลกอริธึมโหมดออฟโรด และอัปเดตอินเทอร์เฟซของตัวรถ
· ระบบสั่งการด้วยเสียง (Voice Interaction System) รองรับคำสั่งภาษาไทย
และอังกฤษ สำหรับควบคุมเครื่องปรับอากาศ ซันรูฟ ระบบนำทาง และความบันเทิง
· ระบบควบคุมรถจากระยะไกล (Remote Vehicle Control) ฟังก์ชันพื้นฐาน
ได้แก่ สตาร์ทรถหรือดับเครื่อง จากระยะไกล, เปิด-ปิดแอร์, เปิด-ปิดประตู ปิดหน้าต่างและซันรูฟ,
และตรวจสอบสถานะรถ เช่น แรงดันลมยาง และระดับน้ำมันเชื้อเพลิง
· ฟังก์ชันด้านความปลอดภัย (Security Features) ประกอบด้วยระบบติดตามตำแหน่งรถ, การตั้งขอบเขตพื้นที่การใช้งาน
(E-Fencing), และระบบแจ้งเตือนความผิดปกติ (เช่น เช็กสถานะการเปิดประตู
หรือหน้าต่าง)
·
ระบบอินเทอร์เฟซผู้ใช้งาน (HMI Interaction)
o
NEW GWM TANK 500 DIESEL รุ่น 2.4T ULTRA:
จอคู่แบบอินเทอร์แอคทีฟ
แสดงแผนที่แบบแบ่งหน้าจอ, การมิเรอร์สื่อมัลติมีเดีย, และข้อมูลโหมดออฟโรด
o NEW GWM TANK 500 DIESEL รุ่น 2.4T ULTRA 4WD: หน้าจอ UI พิเศษสำหรับออฟโรด แสดงค่าความลาดเอียงภูมิประเทศ สถานะการล็อกดิฟเฟอเรนเชียล และโหมดขับเคลื่อน 4 ล้อแบบเรียลไทม์ เพื่อประกอบการตัดสินใจในการลุยเส้นทางสมบุกสมบัน
ระบบการช่วยเหลือผู้ขับขี่และระบบความปลอดภัยสำหรับการขับขี่อัตโนมัติระดับ
L2+
· การขับขี่อัตโนมัติระดับ L2+ (Level L2+ Automated Driving) มาพร้อมเทคโนโลยีอัจฉริยะที่ช่วยเสริมความปลอดภัยและลดภาระผู้ขับขี่ในหลากหลายสถานการณ์
ได้แก่
o ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบแปรผัน
(Full-speed Range ACC): รองรับความเร็ว 0–150 กม./ชม.
คงระยะห่างที่ปลอดภัยจากรถคันหน้า
ช่วยลดความเหนื่อยล้าในการขับขี่และเพิ่มประสิทธิภาพด้านพลังงาน
o ระบบช่วยเปลี่ยนเลน (LCA – Lane Change Assist): ตรวจจับรถที่อยู่ในจุดบอดของกระจกข้าง
หรือรถที่วิ่งมาเร็วจากเลนข้างเคียง พร้อมแสดงไฟเตือนฝั่งที่มีความเสี่ยง
เพื่อช่วยหลีกเลี่ยงการชนจากการเปลี่ยนเลน (เฉพาะรุ่น 2.4T ULTRA และ ULTRA 4WD)
o ระบบเตือนการชนด้านหน้า (FCW – Forward Collision Warning): ช่วยลดความเสี่ยงจากการเบรกไม่ทัน
เพิ่มความปลอดภัยและลดอุบัติเหตุจากการชนด้านหน้า
o ระบบช่วยควบคุมให้อยู่ในเลน (LKA – Lane Keeping Assist): ช่วยปรับพวงมาลัยอัตโนมัติหากรถเบี่ยงออกนอกเลน
เพื่อให้รถคงอยู่ในเส้นทางที่ปลอดภัย
o
ระบบควบคุมอัจฉริยะบนทางด่วน / ระบบช่วยในสภาพการจราจรติดขัด
(HWA/TJA – Highway
Assist / Traffic Jam Assist): ช่วยควบคุมรถทั้งในช่วงขับขี่ทางตรงยาวนานหรือในสภาพรถติด
โดยรักษารถให้อยู่กลางเลน และตามความเร็วหรือระยะห่างจากรถคันหน้าอย่างแม่นยำ
ลดภาระผู้ขับขี่และเพิ่มความปลอดภัยบนทางด่วน
·
ระบบความปลอดภัยเชิงรุก (Active Safety)
o LDW (Lane Departure Warning): ระบบเตือนเมื่อรถเบี่ยงออกนอกเลน
โดยตรวจจับเส้นจราจรผ่านกล้องแบบเรียลไทม์ หากรถเคลื่อนที่ด้วยความเร็วตั้งแต่ 60
กม./ชม. ขึ้นไป และเปลี่ยนเลนโดยไม่เปิดไฟเลี้ยว
ระบบจะแจ้งเตือนผ่านเสียง ภาพ และการสั่นภายใน 0.5 วินาที
o HSA (Hill Start Assist): ระบบช่วยออกตัวบนทางลาดชัน
ป้องกันรถไหลถอยหลัง
o ELK (Emergency Lane Keeping): ระบบช่วยควบคุมพวงมาลัยอัตโนมัติเมื่อตรวจพบว่ามีรถใกล้เคียงในระหว่างเปลี่ยนเลน
เพื่อหลีกเลี่ยงการชน เพิ่มความปลอดภัยในการขับขี่ในเมือง
o RCTA (Rear Cross-Traffic Alert): ระบบเตือนรถสัญจรขณะถอยหลัง
โดยตรวจจับรถที่เคลื่อนที่จากด้านข้าง (เฉพาะรุ่น 2.4T ULTRA และ 2.4T ULTRA 4WD)
o RCTB (Rear Cross-Traffic Braking): ระบบเบรกฉุกเฉินขณะถอยหลัง
หากผู้ขับไม่ตอบสนองต่อการเตือน ระบบจะเบรกอัตโนมัติเพื่อลดความเสี่ยงในการชน (เฉพาะรุ่น 2.4T
ULTRA และ 2.4T ULTRA 4WD)
o MEB (Mild Off-Road Braking): ระบบเบรกอัตโนมัติในความเร็วต่ำ
(≤8 กม./ชม.) ขณะลุยทางออฟโรด หากตรวจพบสิ่งกีดขวางด้านข้าง
ระบบจะเบรกเพื่อหลีกเลี่ยงการชน เหมาะกับสถานการณ์ลุยสุดขีด
o HDC (Hill Descent Control): ระบบควบคุมความเร็วขณะลงทางลาดชัน
ช่วยให้รถลงทางชันหรือพื้นที่ลื่นได้อย่างมั่นคง ลดภาระผู้ขับขี่
o EBD (Electronic Brake-force
Distribution): ระบบกระจายแรงเบรกอิเล็กทรอนิกส์ ตรวจสอบสภาพล้อแบบเรียลไทม์
เพื่อปรับแรงเบรกอย่างเหมาะสม เพิ่มความมั่นคงขณะเบรก
o BAS (Brake Assist System): ระบบเสริมแรงเบรกอัตโนมัติเมื่อผู้ขับเหยียบเบรกอย่างกะทันหัน
เพื่อลดระยะเบรกและลดความเสี่ยงจากการชน
o RMI (Roll Movement Intervention): ระบบป้องกันการพลิกคว่ำ
โดยตรวจสอบท่าทางของรถอย่างต่อเนื่อง
และลดแรงบิดรวมถึงเบรกอัตโนมัติเพื่อรักษาสมดุล
o TCS (Traction Control System): ระบบควบคุมการลื่นไถลของล้อ
โดยตรวจจับความเร็วของล้อขับเคลื่อน หากล้อหมุนฟรี ระบบจะปรับแรงบิดให้เหมาะสม
เพื่อให้รถมีแรงยึดเกาะที่ดีขึ้น
o เซนเซอร์จอดด้านหน้า 6 จุด / ด้านหลัง 6
จุด: ตรวจจับสิ่งกีดขวางรอบคัน
ช่วยแจ้งเตือนผู้ขับขี่ระหว่างจอดรถ (เฉพาะรุ่น 2.4T ULTRA และ
2.4T ULTRA 4WD)
o ระบบกล้องมองภาพรอบคัน 540°: ความละเอียดระดับเมกะพิกเซล
แสดงภาพรอบคันแบบเรียลไทม์ เพิ่มทัศนวิสัยในการขับขี่และจอดรถ
o TPMS (Tire Pressure Monitoring
System): ระบบตรวจสอบแรงดันลมยางแบบเรียลไทม์
แสดงข้อมูลแรงดันและอุณหภูมิของยางแต่ละเส้น พร้อมแจ้งเตือนเมื่อเกิดความผิดปกติ
· ระบบความปลอดภัยเชิงรับ (Passive Safety)
o โครงสร้างตัวถังออกแบบในรูปแบบโครงนิรภัย
(Cage-Type) เพื่อสร้างช่องทางการถ่ายเทแรงกระแทกรอบทิศทาง
ช่วยกระจายแรงปะทะได้อย่างมีประสิทธิภาพ
โดยบริเวณโครงสร้างรับแรงหลักใช้เหล็กกล้าแรงดึงสูงพิเศษ (Ultra-High
Strength Steel) ที่มีค่าความเค้นสูงสุด(Yield Strength) เกิน
1,500 MPa เพื่อลดการยุบตัวของหลังคาในกรณีเกิดแรงกระแทก
o โครงสร้างหลังคาสามารถรองรับแรงกดได้สูงถึง
96.58 กิโลนิวตัน ขณะที่ตัวถังมีความแข็งแรงต่อแรงบิด
(Torsional Stiffness) สูงถึง 23,076 นิวตันเมตร และความแข็งแรงต่อการดัดงอ (Bending Stiffness) 5,602 นิวตันเมตร ซึ่งสามารถทนต่อแรงกดบนหลังคาได้มากกว่ามาตรฐานถึง 4 เท่า
o แชสซีแบบตัวถังบนเฟรมที่ใช้เหล็กกล้าแรงสูงเป็นพิเศษ
ช่วยลดการยุบตัวของห้องโดยสารขณะเกิดการชน เสริมความปลอดภัยสูงสุดให้แก่ผู้โดยสาร
o คอพวงมาลัยแบบยุบตัวดูดซับแรงกระแทกได้
(Crushable Energy-Absorbing
Steering Column) ช่วยลดแรงที่ส่งถึงคนขับเมื่อเกิดการชน
ปกป้องความปลอดภัยของผู้ขับขี่อย่างมีประสิทธิภาพ
o มาพร้อมถุงลมนิรภัย 6 ตำแหน่ง (คู่หน้า ด้านข้าง และม่านนิรภัย)
โดยม่านนิรภัยใช้กระบวนการขึ้นรูปแบบ OPW (One-Piece Woven) เพื่อรักษาความดันลมอย่างมั่นคงและเพิ่มประสิทธิภาพในการปกป้อง
o เข็มขัดนิรภัยแบบดึงกลับอัตโนมัติ 1
จุด (Dual
Pretensioners) ช่วยรัดบริเวณเชิงกรานและหน้าอกของผู้โดยสารทันทีในช่วงเริ่มต้นของการชน
ลดความเสี่ยงจากการบาดเจ็บ
o ฟังก์ชันปลดล็อกประตูอัตโนมัติและตัดระบบจ่ายน้ำมันเมื่อเกิดการชน: รถจะทำการปลดล็อกประตูโดยอัตโนมัติ เปิดไฟฉุกเฉินและไฟเบรก พร้อมตัดวงจรปั๊มน้ำมันทันที เพื่อหยุดการทำงานของเครื่องยนต์และลดความเสี่ยงในการเกิดอุบัติเหตุซ้ำซ้อน
No comments:
Post a Comment