กลุ่ม “ไทยเร้นท์อะคาร์” เดินเกมรุก เปิดตัวแบรนด์รถเช่าจาก “Enterprise Mobility” - AutoFocusNewsZ

Breaking

Home Top Ad

Post Top Ad

Sunday, September 15, 2024

กลุ่ม “ไทยเร้นท์อะคาร์” เดินเกมรุก เปิดตัวแบรนด์รถเช่าจาก “Enterprise Mobility”

กลุ่ม “ไทยเร้นท์อะคาร์” เดินเกมรุก

เปิดตัวแบรนด์รถเช่าจาก “Enterprise Mobility” บริษัทรถเช่าที่ใหญ่ที่สุดในโลก

ขยายฐานนักท่องเที่ยวต่างชาติ กระตุ้นเศรษฐกิจไทย

กลุ่ม “ไทยเร้นท์อะคาร์” ผู้นำตลาดรถเช่าแบรนด์คนไทย จับมือพันธมิตร “Enterprise Mobility” (เอ็นเตอร์ไพรส์ โมบิลิตี้) ผู้ให้บริการรถเช่าที่ใหญ่ที่สุดในโลก ลุยเปิดบริการรถเช่า 3 แบรนด์ใหม่ในประเทศไทย “Enterprise Rent A Car”(เอ็นเตอร์ไพรส์ เรนท์อะคาร์) “National Car Rental” (เนชั่นแนล คาร์ เรนทอล)และ “Alamo Rent A Car” (อลาโม เรนท์อะคาร์) เดินหน้าขยายฐานลูกค้าต่างชาติ พร้อมกระตุ้นเศรษฐกิจภาคการท่องเที่ยว สร้างงานสร้างรายได้ให้คนไทยทั่วประเทศ คาดเงินสะพัดในประเทศกว่า 600 ล้านบาท


นายสุขุม ธรรมมณีวงศ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มไทยเร้นท์อะคาร์ กล่าวว่า กลุ่มไทยเร้นท์อะคาร์มีธุรกิจในเครือที่หลากหลาย ประกอบด้วย ธุรกิจรถหรู Audi Thailand และ Ducati Thailand, ตัวแทนจำหน่าย Mercedes Benz ‘Benz Star Flag’, ธุรกิจรถยนต์มือสอง Car Hero, ธุรกิจสตาร์ทอัพด้านนวัตกรรมจักรยานไฟฟ้า RYDEKART(ไรด์คาร์ท), ผู้จัดจำหน่ายอุปกรณ์กอล์ฟระดับพรีเมียมจากญี่ปุ่น EPON GOLF   (อีปอน กอล์ฟ), ครีเอทีฟเอเจนซี่ด้านการตลาด Audacity Bangkok และบริการรถเช่าไทยเร้นท์อะคาร์ โดยในปี 2566 สามารถสร้างรายได้รวมกว่า 10,000 ล้านบาท


“แม้ว่าอุตสาหกรรมรถยนต์ของไทยจะเผชิญกับวิกฤต โดยมียอดขายรถยนต์ลดลงกว่า 20% ในครึ่งปีแรก แต่บริษัทในเครือยังมี “ไทยเร้นท์อะคาร์” ซึ่งเป็นผู้นำตลาดรถเช่าภายใต้แบรนด์คนไทยที่อยู่คู่คนไทยมากว่า 50 ปี และเติบโตสวนกระแสด้วยยอดขายที่เพิ่มขึ้นถึง 15% ซึ่งการเติบโตดังกล่าวมีปัจจัยจากการที่ผู้บริโภคหันมาเช่ารถมากกว่าซื้อ และการกลับมาของนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เดินทางมาไทยกว่า 17 ล้านคน ในช่วงครึ่งปีแรก” นายสุขุม กล่าว  


จากโอกาสการเติบโตของธุรกิจรถเช่า ทำให้ทีมผู้บริหารไทยเร้นท์อะคาร์ นำโดยนายธีรคุปต์ ธรรมมณีวงศ์ และนายคมสิทธิ์ แสงมณี รุกตลาดมากขึ้น โดยใช้กลยุทธ์ 3P (Product – People – Partnership) ซึ่งได้เพิ่มศักยภาพให้กับไทยเร้นท์อะคาร์อย่างมาก โดยในส่วนของ Product ได้นำเทคโนโลยีมาใช้ในการจัดระบบและวิเคราะห์ข้อมูลผู้บริโภค เพื่อนำเสนอสินค้าและบริการที่ดีที่สุดให้กับลูกค้า สำหรับ People คือการให้ความสำคัญกับการบริการลูกค้า โดยมุ่งพัฒนาศักยภาพบุคลากร จัดตั้งหลักสูตรอบรมบุคลากรเพื่อมุ่งสู่การบริการระดับสากล ส่วน Partnership ได้ร่วมมือกับพันธมิตรในแต่ละอุตสาหกรรม เพื่อแลกเปลี่ยนความรู้ ทักษะ ความชำนาญ เทคโนโลยี เพื่อสร้างการเติบโตอย่างมั่นคงและยั่งยืน


“จากข้อมูลการกลับมาของนักท่องเที่ยวต่างชาติพบว่าจำนวนนักท่องเที่ยวจากอเมริกาและยุโรปเข้ามาประเทศไทยสูงติดอันดับ 1 ใน 10 ไทยเร้นท์อะคาร์จึงได้ใช้กลยุทธ์ Partnership โดยจับมือ Enterprise Mobility ซึ่งเป็นบริษัทรถเช่าที่ใหญ่ที่สุดในโลก เพื่อนำรถเช่าแบรนด์ Enterprise Rent A Car, National Car Rental และ Alamo Rent A Car มาให้บริการในประเทศไทย เพื่อขยายตลาดไปสู่กลุ่มนักท่องเที่ยวต่างชาติ และกลุ่มลูกค้าธุรกิจ ที่เดินทางมาประเทศไทย และต้องการใช้บริการรถเช่า” นายคมสิทธิ์ แสงมณี กล่าว


สำหรับ Enterprise Mobility นับเป็นบริษัทรถเช่าอันดับ 1 จากสหรัฐอเมริกาที่ให้บริการมายาวนานกว่า 70 ปี เติบโตจากการให้บริการรถเช่าขนาดเล็กในปี ค.ศ.1957 จนปัจจุบันได้ขยายการให้บริการรถเช่าครอบคลุมกว่า 100 ประเทศ มีสาขามากกว่า 9,500 สาขา ภายใต้ 3 แบรนด์ คือ Enterprise Rent-A-Car, National Car Rental และ Alamo Rent A Car ซึ่งมีชื่อเสียงและเป็นที่นิยมในกลุ่มนักท่องเที่ยวต่างประเทศ โดยให้บริการรถเช่าหลากหลายรูปแบบ ทั้งรถเช่าระยะสั้น รถเช่าระยะยาว รถเช่าองค์กร มีรถให้เลือกหลากหลาย และจากการบริการที่มีมาตรฐาน รวมทั้งการดูแลใส่ใจลูกค้า ทำให้ Enterprise Mobility ก้าวเป็นบริษัทรถเช่าที่ใหญ่ที่สุดในโลก

นายคมสิทธิ์ แสงมณี กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไทยเร้นท์อะคาร์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด กล่าวเพิ่มเติมว่า การร่วมมือกับ Enterprise Mobility ในครั้งนี้จะทำให้ไทยเร้นท์อะคาร์ขยายฐานลูกค้าไปยังกลุ่มนักท่องเที่ยวจากอเมริกา ยุโรป และทวีปอื่น ๆ ได้เพิ่มขึ้น โดยคาดว่าจะมีการเติบโตของรายได้ถึง 30% มียอดขายรวมกว่า 1,500 ล้านบาท ในปี 2568 นอกจากนี้ ยังช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจไทยที่กำลังซบเซาให้คึกคักขึ้นด้วย โดยคาดว่าจะมีเงินสะพัดกว่า 600 ล้านบาท จากการดึงนักท่องเที่ยวต่างชาติให้มาใช้จ่ายในประเทศไทย ซึ่งนับเป็นกุญแจสำคัญในการสร้างงานสร้างรายได้ให้กับคนไทย กระจายรายได้สู่ท้องถิ่น ขณะเดียวกัน การบริการที่มีมาตรฐานของ Enterprise Mobility ยังช่วยส่งเสริมความสามารถในการแข่งขันด้านการท่องเที่ยวให้กับประเทศไทยด้วย


Enterprise Rent A Car, National Car Rental และ Alamo Rent A Car มุ่งมั่นที่จะมอบประสบการณ์การเดินทางที่สะดวกสบาย ปลอดภัย และยั่งยืนให้กับลูกค้า พร้อมให้บริการในประเทศไทยแล้วตั้งแต่วันนี้ โดยให้บริการควบคู่กับไทยเร้นท์อะคาร์ ใน 10 สาขา ทั่วประเทศ ได้แก่ สนามบินสุวรรณภูมิ สนามบินดอนเมือง ถนนเพชรบุรีตัดใหม่ พัทยา หัวหิน สนามบินเชียงใหม่ สนามบินขอนแก่น กระบี่ สนามบินสมุย และสนามบินภูเก็ต


นอกจากนี้ การจับมือกับบริษัทรถเช่าอันดับ 1 ของโลก ยังช่วยให้การจองรถเช่าในต่างประเทศเป็นเรื่องง่ายขึ้นสำหรับคนไทย โดยสามารถจองรถเช่าเพื่อการท่องเที่ยวหรือใช้งานในต่างประเทศผ่าน Enterprise Mobility ซึ่งครอบคลุมกว่า 100 ประเทศทั่วโลก การันตีมาตรฐานการให้บริการ และความน่าเชื่อถือที่เชื่อถือได้ 100%


ลูกค้าสามารถจองรถทางเว็บไซต์ www.enterprise.th


ติดตามข้อมูลข่าวสารผ่านหลากหลายช่องทาง Social Media 

Facebook : https://www.facebook.com/enterprisethailand

Instagram : https://www.instagram.com/enterprisethailand

LinkedIn : www.linkedin.com/in/enterprise-rent-a-car-thailand 





No comments:

Post a Comment

Post Bottom Ad



Pages